กลับหน้าบทความอิเล็กทรอนิกส์ | SE-ED.com | Electronics Society | ThailandIndustry.com | Webboards |
ทรานซิสเตอร์ ในวงจรสวิทช์ชิ่ง : นายไอซี

ที่มา : วารสาร SEMICONDUCTER ฉบับที่ 69 เดือน กุมภาพันธ์ - มีนาคม พ.ศ. 2529

หน้าแรก
ใช้ทรานซิสเตอร์
เมื่อช่วยแรงดันควบคุม มากเกินไป
เมื่อทรานซิสเตอร์ให้เบต้า ไม่สูงพอ
ใช้ทรานซิสเตอร์รักษา แรงดันให้คงที่
แบบฝึกหัดทดสอบ




ใช้ทรานซิสเตอร์เป็นสวิทช์

อาศัยหลักการเดียวกันกับการขยายสัญญาณด้วยตัว b เป็นตัวสำคัญเช่นกัน แต่ในลักษณะการทำงานของทรานซิสเตอร์จะทำงานอยู่ 2 สถานะ คือ สถานะที่ไม่นำกระแสเลย (OFF) และในสถานะที่นำกระแสเต็มที่จนอิ่มตัว (ON) ลองมาดูวงจรง่าย ๆ ในรูปที่ 1

รูปที่ 1 การใช้ทรานซิสเตอร์ชนิด NPN เป็นสวิทช์ โดยการควบคุมด้วยแรงดันที่ขา B

ในรูป (ก) เป็นการจำลองให้เห็นถึงการใช้ทรานซิสเตอร์ทำงานเหมือนกับสวิทช์ปิด - เปิดซึ่งถูกควบคุม ด้วยแรงดันที่ขาเบส ในรูป (ข) เป็นตัวอย่างง่าย ๆ โดยใช้สวิทช์ควบคุมแรงดันที่ขาเบส ผ่าน R เพื่อปิด - เปิด หลอดไฟ เมื่อสวิทช์ปิดวงจรหรือที่ R มีแรงดันมากกว่า 0.6 โวลต์ จะเกิดกระแสเบสไหล เป็นผลให้มีกระแสไหลผ่านหลอดไฟให้ติดสว่างด้วยแต่จุดประสงค์ของวงจรนี้ ส่วนใหญ่คือ ต้องการให้หลอดไฟสว่างเต็มที่ นั่นคือค่าของ R และ Vin จะต้องทำให้ทรานซิสเตอร์อิ่มตัวได้ด้วย วิธีคำนวณมีดังนี้

จากตัวอย่างในรูป (ข) แรงดัน Vin อาจไม่ได้จากการที่สวิทช์ปิดวงจรก็ได้ อาจจะได้มาจากแหล่งกำเนิดแรงดันต่าง ๆ ซึ่งต้องการควบคุมหลอดไฟ หรือพูดง่าย ๆ ว่า ในกรณีนี้หลอดไฟจะถูกควบคุมด้วยแรงดัน แทนที่จะต้องคอยมาใช้มือปิด - เปิด แทน โดยแรงดันที่ว่านี้หากมีค่าน้อยกว่า 6 โวลต์ ค่า R1 จะต้องน้อยลงเพื่อให้ได้ Ib เท่าเดิม

รูปที่ 2 ตัวอย่างการใช้แรงดันควบคุมที่ขา B ด้วยวงจร R, C เพื่อเป็นวงจรตั้งเวลา ส่วนรูป (ขา) แสดงแรงดันและกระแสตามเวลา

ในรูปที่ 2 เป็นการใช้แรงดันจากวงจร R, C มาควบคุมหลอดไฟแทนสวิทช์ โดยที่แรงดัน Vc จะได้มาจากการประจุตัว C ซึ่งจะมีลักษณะของแรงดันตามเวลาดังรูปที่ 2 (ข) เมื่อแรงดัน Vc ถูกประจุ จนมีค่าประมาณ 2 โวลต์ (Vd1 -Vd2+Vbe) จึงจะเริ่มมีกระแสเบสได้ ผลก็คือ ที่กระแสเบสค่าหนึ่งจะทำให้ทรานซิสเตอร์อิ่มตัวโดยเร็ว ลักษณะเช่นนี้ LED จะเริ่มสว่างและสว่างจนถึงจุดมากสุดอย่างรวดเร็ว ตัวอย่างวงจรในรูปที่ 2 นี้อาจใช้เป็นวงจรตั้งเวลาได้ ในลักษณะที่เมื่อเริ่มจ่ายไฟเข้าวงจรแล้ว LED ยังไม่สว่าง ต้องรอเวลาสักระยะ (ตามค่า R, C) LED จึงสว่าง อย่างไรก็ตามค่าของ R ต้องมีค่าน้อยพอที่จะกระแสเกิดกระแสเบสที่จะทำให้ทรานซิสเตอร์อิ่มตัวได้ จึงทำให้เวลาที่ตั้งได้มีค่าไม่นานมากนัก

รูปที่ 3 การใช้ทรานซิสเตอร์ชนิด NPN เป็นสวิทช์ แต่ Vin ต้องมีค่าต่ำๆ หลดไฟจึงจะสว่าง

คราวนี้มาดูวงจรที่ใช้ทรานซิสเตอร์ชนิด PNP บ้างตามรูปที่ 3 ลักษณะเช่นนี้ แรงดัน Vin จะต้องมีค่าต่ำ ๆ จึงจะทำให้หลอดไฟติดสว่างได้ เมื่อใช้สวิทช์ต่อลงกราวนด์หรือ Vin มีค่าเป็น 0 โวลต์ จะเกิดกระแสเบสไหลได้

จะเห็นว่าหลอดไฟจะมีกระแสไหลผ่านได้ก็ต่อเมื่อ Vin มีค่าแรงดันน้อยกว่า Vcc -0.6 V เช่น Vcc มีค่าเป็น 6 โวลต์แรงดัน Vin จะต้องมีค่าน้อยกว่า 5.4 โวลต์ ทรานซิสเตอร์จึงนำกระแสได้

สรุปผลของการต่อทรานซิสเตอร์เป็นสวิทช์ทั้ง 2 ชนิดก็คือ ในรูปที่ 1 ใช้ทรานซิสเตอร์ชนิด NPN แรงดัน Vin ต้องมีค่าสูง จึงจะทำให้ขา C, E ปิดวงจรและต้องต่อโหลด เข้ากับไฟบวก ส่วนทรานซิสเตอร์ชนิด PNP ในรูปที่ 3 แรงดัน Vin ต้องมีค่าต่ำจึงจะทำให้ขา C, E ปิดวงจรและจะต่อโหลดเข้ากับไฟลบหรือกราวด์


สงวนลิขสิทธิ์
พ.ศ. 2542-2553 โดยบริษัท ซีเอ็ดยูเคชั่น จำกัด (มหาชน)
Copyright © 1999-2010 by SE-EDUCATION Public Company Limited. All rights reserved.