|  
       แบบของหน้าสัมผัส  
        ในสเปกของรีเลย์ 
        บริษัทผู้ผลิตจะบอกสิ่งจำเป็นสำหรับผู้ใช้เอาไว้ เช่น ค่าแรงดันใช้งาน ค่ากำลังไฟฟ้าที่ต้องการ 
        ค่ากระแส และ ค่าความต้านทาน เป็นต้น. นอกจากนี้ สิ่งที่จะลืมเสียไม่ได้ 
        ก็คือ แบบของหน้าสัมผัส หรือ คอนแทค . ผู้ผลิตรีเลย์เขาจะบอกมาว่า หน้าสัมผัสของรีเลย์ตัวนี้เป็นแบบใด 
        และ มีจำนวนกี่ชุด. ถ้าเขาบอกมาโดยการเขียนเป็นตัวเต็มมาก็คงไม่มีปัญหาแต่ถ้าหากเขาบอก 
        มาเป็นตัวย่อ เราจะมีวิธีสังเกตอย่างไร.  
       การที่จะทราบว่า 
        หน้าสัมผัสของรีเลย์เป็นแบบใดนั้น ทางสมาคมผู้ผลิตรีเลย์ หรือ National Association 
        of relay Manufacturers ( NARM ) ได้นำแบบของหน้าสัมผัสมารวมไว้เป็นตาราง 
        พร้อมทั้งให้ชื่อไว้ด้วยว่า ชื่อของตัวอักษรตัวใดจะตรงกับหน้าสัมผัสแบบใด. 
        ในที่นี้จะไม่นำตารางนั้นมาลงละครับ. ผมเพียงอยากยกตัวอย่างของหน้าสัมผัสแบบที่ใช้กันบ่อยๆ 
        สัก 2 - 3 แบบ เพื่อมาประกอบคำอธิบายการทำงานของหรีดรีเลย์ ซึ่งจะกล่าวภายหลัง. 
         
       สมมติว่าผู้ผลิตเขียนมาในสเปกว่ารีเลย์ตัวนั้นเป็นแบบ 
        A ( Form A ) ก็หมายถึงหน้าสัมผัสของรีเลย์ตัวนั้น ในสภาพปกติจะเปิดอยู่ 
        ( Normally open ) และ หน้าสัมผัสเป็นแบบ SPST ถ้าจะเขียนเป็นสัญลักษณ์ ก็คือ 
        
       เมื่อเวลาทำงานหน้าสัมผัสถึงจะต่อกันหน้าสัมผัสในแบบ 
        A นี้ เราจะเรียกว่า " Make " ก็ได้  
       ถ้าเป็นหน้าสัมผัสแบบ 
        B ( Form B ) หมายถึง หน้าสัมผัสของรีเลย์ในสภาพปกติจะปิด ( Normally closed 
        ) และเป็นแบบ SPST เขียนเป็นสัญลักษณ์ได้ คือ  
        
       หน้าสัมผัสแบบนี้ 
        เวลาทำงานหน้าสัมผัสจะแยกออกจากกัน หน้าสัมผัสแบบ B นี้ เรียกว่า " bread 
        " ก็ได้  
       หน้าสัมผัสแบบ 
        C ( Form C ) แบบนี้เรียกว่า " break , make หรือ transfer เป็นหน้าสัมผัสแบบ 
        SPDT เขียนสัญลักษณ์ได้ ดังนี้  
        
       หน้าสัมผัสในแบบ 
        C จะมีอยู่ด้วยกัน 3 อัน. ในขณะที่ รีเลย์ยังไม่ทำงาน หน้าสัมผัส 1 และ 2 
        จะต่อกันอยู่ เมื่อรีเลย์ทำงานหน้าสัมผัส 1 และ หน้าสัมผัส 2 จะแยกกัน. เมื่อแยกกันแล้ว 
        หน้าสัมผัส 1 จะมาต่อกับหน้าสัมผัส 3 แทน. พอรีเลย์หยุดทำงานหน้าสัมผัส 1 
        กับ 2 ก็จะต่อกันตามเดิม. 
       สำหรับจำนวนชุดของหน้าสัมผัสนั้นจะบอกเป็นตัวเลข 
        และ เขียนไว้หน้าตัวอักษรที่แสดงแบบของหน้าสัมผัส เช่น 1A , 1B , 2B , 2A. 
       1A 
        หมายถึง หน้าสัมผัสเป็นแบบ A และ มีจำนวนหน้าสัมผัส 1 ชุด  
        
       1B 
        หมายถึง หน้าสัมผัสเป็นแบบ B และ มีจำนวนหน้าสัมผัส 1 ชุด  
        
       2A 
        หมายถึง หน้าสัมผัสเป็นแบบ A มีจำนวนหน้าสัมผัส 2 ชุด เมื่อรีเลย์ทำงานหน้าสัมผัสทั้งสอง 
        ก็จะทำงานพร้อมกัน. 
        
       หน้าสัมผัสของรีเลย์ตัวเดียวอาจจะมีจำนวนเป็นสิบๆ 
        ชุด. เท่าที่ยกตัวอย่างให้เห็นนั้น เป็นเพียงตัวอย่าง ที่ต้องการให้ผู้อ่านได้เข้าใจถึงวิธีสังเกตุแบบของหน้าสัมผัส 
        และ จำนวนของหน้าสัมผัสซึ่งมักใช้กันบ่อยๆ. 
     |