กลับหน้าบทความอิเล็กทรอนิกส์ | SE-ED.com | Electronics Society | ThailandIndustry.com | Webboards |
หรีดรีเลย์ : พันธ์ศักดิ์ อาภาขจร

ที่มา : วารสาร SEMICONDUCTER ฉบับที่ 35

หน้าแรก
แบบของหน้าสัมผัส
การทำงานของหรีดรีเลย์
หรีดรีเลย์แบบอื่น ๆ

แบบของหน้าสัมผัส

ในสเปกของรีเลย์ บริษัทผู้ผลิตจะบอกสิ่งจำเป็นสำหรับผู้ใช้เอาไว้ เช่น ค่าแรงดันใช้งาน ค่ากำลังไฟฟ้าที่ต้องการ ค่ากระแส และ ค่าความต้านทาน เป็นต้น. นอกจากนี้ สิ่งที่จะลืมเสียไม่ได้ ก็คือ แบบของหน้าสัมผัส หรือ คอนแทค . ผู้ผลิตรีเลย์เขาจะบอกมาว่า หน้าสัมผัสของรีเลย์ตัวนี้เป็นแบบใด และ มีจำนวนกี่ชุด. ถ้าเขาบอกมาโดยการเขียนเป็นตัวเต็มมาก็คงไม่มีปัญหาแต่ถ้าหากเขาบอก มาเป็นตัวย่อ เราจะมีวิธีสังเกตอย่างไร.

การที่จะทราบว่า หน้าสัมผัสของรีเลย์เป็นแบบใดนั้น ทางสมาคมผู้ผลิตรีเลย์ หรือ National Association of relay Manufacturers ( NARM ) ได้นำแบบของหน้าสัมผัสมารวมไว้เป็นตาราง พร้อมทั้งให้ชื่อไว้ด้วยว่า ชื่อของตัวอักษรตัวใดจะตรงกับหน้าสัมผัสแบบใด. ในที่นี้จะไม่นำตารางนั้นมาลงละครับ. ผมเพียงอยากยกตัวอย่างของหน้าสัมผัสแบบที่ใช้กันบ่อยๆ สัก 2 - 3 แบบ เพื่อมาประกอบคำอธิบายการทำงานของหรีดรีเลย์ ซึ่งจะกล่าวภายหลัง.

สมมติว่าผู้ผลิตเขียนมาในสเปกว่ารีเลย์ตัวนั้นเป็นแบบ A ( Form A ) ก็หมายถึงหน้าสัมผัสของรีเลย์ตัวนั้น ในสภาพปกติจะเปิดอยู่ ( Normally open ) และ หน้าสัมผัสเป็นแบบ SPST ถ้าจะเขียนเป็นสัญลักษณ์ ก็คือ

เมื่อเวลาทำงานหน้าสัมผัสถึงจะต่อกันหน้าสัมผัสในแบบ A นี้ เราจะเรียกว่า " Make " ก็ได้

ถ้าเป็นหน้าสัมผัสแบบ B ( Form B ) หมายถึง หน้าสัมผัสของรีเลย์ในสภาพปกติจะปิด ( Normally closed ) และเป็นแบบ SPST เขียนเป็นสัญลักษณ์ได้ คือ

หน้าสัมผัสแบบนี้ เวลาทำงานหน้าสัมผัสจะแยกออกจากกัน หน้าสัมผัสแบบ B นี้ เรียกว่า " bread " ก็ได้

หน้าสัมผัสแบบ C ( Form C ) แบบนี้เรียกว่า " break , make หรือ transfer เป็นหน้าสัมผัสแบบ SPDT เขียนสัญลักษณ์ได้ ดังนี้

หน้าสัมผัสในแบบ C จะมีอยู่ด้วยกัน 3 อัน. ในขณะที่ รีเลย์ยังไม่ทำงาน หน้าสัมผัส 1 และ 2 จะต่อกันอยู่ เมื่อรีเลย์ทำงานหน้าสัมผัส 1 และ หน้าสัมผัส 2 จะแยกกัน. เมื่อแยกกันแล้ว หน้าสัมผัส 1 จะมาต่อกับหน้าสัมผัส 3 แทน. พอรีเลย์หยุดทำงานหน้าสัมผัส 1 กับ 2 ก็จะต่อกันตามเดิม.

สำหรับจำนวนชุดของหน้าสัมผัสนั้นจะบอกเป็นตัวเลข และ เขียนไว้หน้าตัวอักษรที่แสดงแบบของหน้าสัมผัส เช่น 1A , 1B , 2B , 2A.

1A หมายถึง หน้าสัมผัสเป็นแบบ A และ มีจำนวนหน้าสัมผัส 1 ชุด

1B หมายถึง หน้าสัมผัสเป็นแบบ B และ มีจำนวนหน้าสัมผัส 1 ชุด

2A หมายถึง หน้าสัมผัสเป็นแบบ A มีจำนวนหน้าสัมผัส 2 ชุด เมื่อรีเลย์ทำงานหน้าสัมผัสทั้งสอง ก็จะทำงานพร้อมกัน.

หน้าสัมผัสของรีเลย์ตัวเดียวอาจจะมีจำนวนเป็นสิบๆ ชุด. เท่าที่ยกตัวอย่างให้เห็นนั้น เป็นเพียงตัวอย่าง ที่ต้องการให้ผู้อ่านได้เข้าใจถึงวิธีสังเกตุแบบของหน้าสัมผัส และ จำนวนของหน้าสัมผัสซึ่งมักใช้กันบ่อยๆ.


สงวนลิขสิทธิ์
พ.ศ. 2542-2553 โดยบริษัท ซีเอ็ดยูเคชั่น จำกัด (มหาชน)
Copyright © 1999-2010 by SE-EDUCATION Public Company Limited. All rights reserved.