|  
       วงจรหรี่ไฟ 
       วงจรหรี่ไฟก็เป็นการใช้งานที่สำคัญอีกแบบหนึ่งของไตรแอก 
        โดยอาศัยการกระตุ้นที่ตำแหน่งเฟสที่คงที่ของสัญญาณไฟสลับ ที่ให้เพื่อเป็นการควบคุมปริมาณกำลังไฟที่ป้อนให้แก่ 
        โหลดที่เป็นหลอดไฟในวงจรประเภทนี้ จำเป็นต้องมีวงจรกรองความถี่แบบ LC เพื่อลดผลของ 
        RFI ที่เกิดขึ้น 
       เทคนิคของการกระตุ้นที่ตำแหน่งเฟสคงที่นั้นที่นิยมใช้มีอยู่ 
        3 วิธีคือ การใช้ไดแอกร่วมกับวงจร RC, การใช้ UJT และการใช้ไอซีที่สร้างขึ้นเฉพาะในการกระตุ้นให้ไตรแอกทำงาน 
        
      รูปที่ 23 วงจรหรี่ไฟแบบพื้นฐาน 
       ในรูปที่ 
        23 แสดงถึงวงจรที่ใช้ไดแอกเป็นตัวสร้างสัญญาณกระตุ้นให้แก่ไตรแอก ผลที่เกิดขึ้นสำหรับวงจรนี้คือการควบคุมความสว่างของหลอดไฟจะไม่สมบูรณ์เนื่องฮิสเทอรีซิส 
        หรือเรียกว่าแบคแลช (backlash) นั่นคือ ในขณะที่ทำการลดความสว่างของหลอดไฟจนกระทั่งดับ 
        โดยการปรับค่า VR1 ให้สูงสุดนั้น ถ้าต้องการให้หลอดไฟเริ่มสว่างอีกครั้ง 
        จะต้องปรับ VR1 ไปเป็นค่าประมาณ 80 เปอร์เซ็นต์ ของค่าสูงสุด ความสว่างที่ได้จะไม่ใช่ค่อย 
        ๆ เริ่มสว่าง แต่จะสว่างขึ้นเล็กน้อยอย่างทันทีทันใด จึงเป็นการทำให้ควบคุมความสว่างได้ไม่ต่อเนื่องเท่าที่ควร 
        ซึ่งเกิดขึ้นเนื่องจากในขณะที่ไดแอกกระตุ้นไตรแอกนั้นจะเป็นการคายประจุของ 
        C1 ออกไปด้วย 
        
      รูปที่ 24 วงจรหรี่ไฟที่ปรับปรุงให้สามารถควบคุมความสว่างได้สมบูรณ์ 
       ผลของแบคแลชที่เกิดขึ้นนี้สามารถลดลงได้โดยต่อความต้านทานค่า 
        47 โอห์มอนุกรมเข้ากับไดแอก เพื่อลดผลของการคายประจุของ C1 แต่วิธีการที่ดีที่สุดที่นิยม 
        ใช้กันได้แสดงไว้ใน รูปที่ 24 ในที่นี้ไดแอก จะถูกกระตุ้นจาก C2 แทน ซึ่งจะมีระดับแรงดันตกคร่อมเป็นไปตาม 
        C1 แต่ C1 จะถูกลดผลของการคายประจุในขณะที่ไดแอกทำงานโดยความต้านทาน R2 
        
      รูปที่ 25 การใช้ UJT 
        เป็นตัวกระตุ้นไตรแอกทำงานโดยไม่มีผลของแบคแลช 
       ยังมีอีกวิธีหนึ่งที่สามารถตัดผลของแบคแลชได้สมบูรณ์คือการใช้ 
        UJT ในการกระตุ้นให้ไตรแอกทำงาน ดังแสดงไว้ในรูปที่ 25 UJT (Q1) จะรับแรงดันขนาด 
        12 โวลต์ ที่สร้างขึ้นจากซีเนอร์ไดโอด D2 การทำงานของ UJT จะสัมพันธ์กับคาบของสัญญาณไฟสลับที่ให้โดยใช้วงจรตรวจจับจุดตัดศูนย์ที่ประกอบด้วย 
        Q2, Q3 และ Q4 ทรานซิสเตอร์ Q4 จะทำหน้าที่จ่ายแรงดันให้แก่วงจรของ UJT ในทุก 
        ๆ ครั้งที่สัญญาณไฟสลับผ่านจุดตัดศูนย์ส่วน UJT จะทำงานหลังจากช่วงเวลานั้นไปโดยสามารถกำหนดได้จากค่าของ 
        R5, VR1 และ C2 UJT จะทำหน้าที่กระตุ้นให้ไตรแอกทำงานในทุก ๆ ครึ่งคาบเวลาของสัญญาณไฟสลับ 
        ดังนั้นเราสามารถปรับความสว่างของหลอดไฟได้โดยการปรับค่า VR1 และจะไม่เกิดผลของแบคแลชขึ้น 
        
      รูปที่ 26 การใช้ไอซีเบอร์ 
        S566B ในการควบคุมการทำงานของไตรแอกสำหรับวงจรหรี่ไฟ 
       รูปที่ 
        26 แสดงถึงการใช้ไอซีเบอร์ S566B ที่สร้างขึ้นพิเศษสำหรับเป็นตัวกระตุ้นไตรแอกในวงจรหรี่ไฟ 
        ที่ควบคุมด้วยสวิตช์สัมผัส หรือสวิตช์กดหรือออปโต้ไอโซเลเตอร์ก็ได้ การรับอินพุตของ 
        S566B นั้น เป็นลักษณะคล้ายระดับสัญญาณลอจิกที่ไปควบคุมการเพิ่มหรือลดความสว่างของหลอดไฟ 
        นั่นคือถ้าแตะสวิตช์สัมผัสหรือกดสวิตช์ หรือให้สัญญาณควบคุม 5 โวลต์แก่ออปโต้ไอโซเลเตอร์นานเท่าใดความสว่างของหลอดไฟจะค่อย 
        ๆ เพิ่มขึ้นจาก 3 เปอร์เซ็นต์ ไปจนถึง 97 เปอร์เซ็นต์สูงสุด และจะเพิ่มขึ้นเช่นนี้เรื่อย 
        ๆ ไป 
       สำหรับสวิตช์สัมผัสสามารถทำได้โดยใช้แผ่นโลหะตัวนำที่ต่อไว้ลอย 
        ๆ โดยอนุกรมกับความต้านทาน R8 และ R9 ดังรูป 
       |