กลับหน้าบทความอิเล็กทรอนิกส์ | SE-ED.com | Electronics Society | ThailandIndustry.com | Webboards |
เทอร์โมคัปเปิล ตอนจบ : สว่าง ประกายรุ้งทอง

ที่มา : วารสาร SEMICONDUCTER ฉบับที่ 94 เดือน สิงหาคม พ.ศ. 2532

หน้าแรก
ไฟโรมิเตอร์
ไฟโรมิเตอร์ทำเอง
การทำงานของวงจร
การสร้าง
การปรับแต่ง

การทำงานของวงจร

คราวนี้มาลองดูวงจรทั้งหมดกันเลย IC1 จะเป็นวงจรขยายแรงดันให้เป็นกระแสแบบพื้นฐาน. ดังแสดงในรูปที่ 1 โดยการ ใช้ออปแอมป์เบอร์ 741 แบบมาตราฐานราคาถก . เนื่องจากเราไม่ต้องการลักษณะพิเศษในรูปของค่าอินพุตอิมพีแดนซ์ที่สูง หรือ ความสามารถในการขับเอาท์พุต

.

รูปที่ 1 วงจรพื้นฐานที่ใช้ในวงจรวัดของไพโรมิเตอร์เพื่อทำหน้าที่เป็นวงจรแปลงแรงดันให้เป็นกระแส

ออปแอมป์ตัวที่สอง IC2 ใช้สำหรับแบ่งแรงดันของแหล่งจ่ายไฟขนาด 9 โวลต์ เพื่อให้ IC1 ทำงานในส่วนที่เป็นเชิงเส้น ที่สุดของเคิร์ฟการส่งผ่าน ( transfer curve ) IC2 จะถูกต่อเป็นวงจรขยายแรงดันตามที่มีอัตราขยายเท่ากับ 1 มีอินพุตต่อ เพื่อแบ่งแรงดัน โดย R5 และ R6 เอาต์พุตอยู่ตรงกึ่งกลางระหว่างแรงดันของแหล่งจ่ายไฟ และ ใช้สำหรับต่อให้เกิดระดับแรง ดันของแหล่งจ่ายไฟ และ ใช้สำหรับต่อให้เกิดระดับแรงดันไบแอสอ้างอิงสำหรับ IC1 ตัวเก็บประจุ C2 ใช้ป้องกันสัญญาณรบ กวนใดๆ ที่จะเข้าไปยัง IC1 โดยผ่านจุดระดับแรงดันอ้างอิง ดังนี้

เทอร์โมคัปเปิลจะถูกต่อเข้ากับอินพุต ของ IC1 โดยผ่านเนตเวอร์กแบบง่ายๆที่ประกอบด้วย R1 , R2 และ C1 หน้าที่ของ R1 ก็เพื่อที่จะกลบผลของความต้านทานระหว่างสาย และ ขั้วต่อในเทอร์โมคัปเปิล. ในขณะที่ C1 ใช้ป้องกันอินพุตของ IC1 จากการลอยอยู่ ขณะที่สายโพรบอาจจะไม่ได้ต่อไว้.

โปเทนชิโอมิเตอร์ VR1 ใช้เพื่อลบล้างระดับแรงดันออฟเซ็ตของอินพุตของ IC1 ซึ่งอาจจะสูงถึง + 15 มิลลิโวลต์ ซึ่ง ค่อนข้างต่ำแต่ ก็มากเพียงพอในที่นี้.

ส่วนสุดท้าย VR 2 R 3 R 4 ทั้งหมดนี้ทำหน้าที่เป็นตัวต้านทานป้อนกลับแระแสเพื่อแทนที่ R f ในรูปที่ 1 แนวคิดใน ที่นี้ก็เพื่อจัดหาตัวต้านทานที่เป็นผล ซึ่งค่าของมันจะเปลี่ยนแปลงได้ในย่านแคบๆ เพื่อทำหน้าที่ในการปรับชดเชยสำหรับค่า ความผิดพลาดจากควาคลาดเคลื่อนของการเคลื่อนที่ของมิเตอร์ และ เป็นการปรับแต่งตัวไพโรมิเตอร์.

ค่าของตัวต้านทานป้อนกลับที่แสดงไนวงจรจะสามารถเปลี่ยนแปลงได้จาก 45 ถึง 55 โอห์ม ( ประมาณ บวกลบ 10% จากค่า 50 โอห์ม ) ซึ่งเป็นการเพียงพอที่จะยอมให้วงจรถูกตั้งค่าความเที่ยงตรงไว้ที่ 50 มิลลิโวลต์ เต็มสเกลหักเหเสมือนกับ การเคลื่อนที่จาก 0 - 1

วงจรนี้ตั้งใจสำหรับให้ใช้กับเทอร์โมคัปเปิลชนิด K หรือ ชนิดใดๆ ก็ได้ ซึ่งสามารถอ่านค่าได้อย่างเที่ยงตรงจากมิเตอร์ ขนาด 0 - 50 mV ซึ่งรวมไปถึงชนิด J หรือ ชนิด E ( วัดได้สูงประมาณ 750 องศาเซลเซียส)

สำหรับเทอร์โมคัปเปิลที่มีค่าเอาต์พุตต่ำกว่า เช่น ชนิด R และ S คุณจะต้องดัดแปลงค่าของ R 3 และ R 4 ใหม่เพื่อ ให้วงจรมีค่าเต็มสเกลหักเหเท่ากับ 20 mV เป็นต้น. โดยค่าของ R 3 เท่ากับ 150 โอห์ม และ R 4 เท่ากับ 27 โอห์ม จะ สามารถมีคุณสมบัติตามนี้ โดยจะให้ผ่านการปรับจากประมาณ 18.6 ถึง 21.25 โอห์ม ( ประมาณ + 6 % จากค่า 20 โอห์ม )

 


สงวนลิขสิทธิ์
พ.ศ. 2542-2553 โดยบริษัท ซีเอ็ดยูเคชั่น จำกัด (มหาชน)
Copyright © 1999-2010 by SE-EDUCATION Public Company Limited. All rights reserved.