|  
        วงจรเร็กติไฟเออร์แบบครึ่งคลื่น 
       การนำไดโอดมาประยุกต์ใช้งานที่ง่ายที่สุดก็คือ 
         การนำมาทำเป็นวงจรเร็กติไฟเออร์แบบครึ่งคลื่น 
        จากรูปที่ 8 แสดงวงจร เรียงกระแสแบบครึ่งคลื่น และสัญญาณแรงดันเอาต์พุทจากวงจรซึ่งหม้อแปลงใช้เป็น 
        แหล่งจ่ายแรงดัน ให้แก่ไดโอด (แรงดันอิน พุตของไดโอด Vin เป็นโวลท์อาร์เอ็มเอส) 
        จากวงจรถ้าโหลดเป็นประเภทคาปาซิตีฟโหลด วงจรจะแสดงลักษณะเป็นวงจรดีเทก ค่าแรงดันสูงสุด 
        ซึ่งแรงดันเอาต์พุต (แรงดันสูงสุด) จะเท่ากับ 1.41 Vin แต่ถ้าโหลดเป็นประเภทรีซิสตีฟโหลด 
        วงจรจะเป็น ลักษณะวงจรเร็กติไฟเออร์อย่างง่าย และให้แรงดันเอาต์พุต ( อาร์เอ็มเอส 
        ) เท่ากับ 0.5 Vin ในกรณีที่โหลดเป็นทั้งคาปาซิตีฟ โหลดและรีซิสตีฟโหลด 
        ( ดังที่ใช้ในวงจรแหล่งจ่ายไฟกระแสตรง แรงดันเอาต์พุตจะมีลักษณะเป็นแรงดันกระเพื่อม 
        หรือริปเปิล (ripple) และมีค่าแรงดันอาร์เอ็มเอสอยู่ระหว่างค่าทั้งสอง สิ่งที่จะต้องคำนึงถึงในการใช้วงจรนี้คือ 
        ถ้าเป็นคาปาซิตีฟโหลด ไดโอดจะต้องทนแรงดันย้อนกลับสูงสุดได้อย่างน้อย 2.82 
        Vin และถ้าเป็นรีซิสตีฟโหลดต้องทนได้อย่างน้อย 1.41 Vin 
        เพื่อป้อง กันไม่ให้ไดโอดเกิดความเสียหาย 
        
      รูปที่ 8 วงจรเร็กติไฟเออร์แบบครึ่งคลื่นและสัญญาณแรงดันทางเอาต์พุต 
       สำหรับกำลังานที่โหลดได้รับจากวงจรนี้ 
        ถ้าโหลดเป็นรีซิสตีฟโหลดจะได้รับกำลังงานเพียง 1 ใน 4 ของกำลังงานสูงสุด 
        เท่านั้น เพราะกำลังงานแปรตามค่ากำลังสองของแรงดันอาร์เอ็มเอสที่จ่าย จากรูปที่ 
        9 ถึง 11 แสดงการนำวงจรเร็กติไฟเออร์แบบ ครึ่งคลื่นมาประยุกต์ใช้กับการควบคุมกำลังที่จ่ายให้หลอดไฟ 
        , สว่านไฟฟ้า และหัวแร้งบัดกรี ตามลำดับ เพื่อให้มีการทำงานแบบ 2 ระดับ โดยแต่ละวงจร 
        แรงดัน (อาร์เอ็มเอส) ที่จ่ายให้กับโหลดจะเท่ากับ Vin เมื่อสวิตซ์ 
        S1 อยู่ตำแหน่ง 3 และเท่ากับ 0.5 Vin เมื่อสวิตซ์ S1 
        อยู่ที่ตำแหน่ง 2 
       วงจรในรูปที่ 
        9 โหลดเป็นหลอดไฟ ซึ่งมีค่าความต้านทานค่าหนึ่งอยู่ภายใน โดยจะแปรตามอุณหภูมิของไส้หลอด 
        เมื่อ หลอดไฟได้รับแรงดันเพียงครึ่งหนึ่งของแรงดันสูงสุด ค่าความต้านทานจะลดลงครึ่งหนึ่งจากค่าสูงสุดเช่นกัน 
        ดังนั้นหลอดไฟ จึงทำงานด้วยกำลังเพียงครึ่งหนึ่งของกำลังงานสูงสุด และให้ความสว่างเพียงครึ่งหนึ่ง 
        เมื่อสวิตซ์ S1 อยู่ที่ตำแหน่ง DIM (หรี่ไฟ) 
        
      รูปที่ 9 วงจรหรี่ไฟอย่างง่าย 
       วงจรในรูปที่ 
        10 โหลดเป็นยูนิเวอร์แซลมอเตอร์ของสว่านไฟฟ้า ซึ่งสามารถที่จะควบคุมความเร็วของมอเตอร์ได้ 
        (เมื่อ โหลดมีขนาดเบา) ดังนั้นมอเตอร์จะทำงานประมาณ 70 เปอร์เซ็นต์ของความเร็วสูงสุดเมื่อสวิตซ์ 
        S1 อยู่ในตำแหน่ง PART 
        
      รูปที่ 10 วงจรลดความเร็วรอบมอเตอร์อย่างง่าย 
       วงจรในรูปที่ 
        11 โหลดเป็นหัวแร้งบัดกรี ซึ่งจะมีค่าความต้านทานเพิ่มขึ้น พอสมควรจากอุณหภูมิ 
        เมื่อหัวแร้ง ได้รับแรง ดันเพียงครึ่งหนึ่งทำให้ค่าความต้านทานลดลงเล็กน้อยตามไปด้วย 
        ดังนั้นหัวแร้งจึงทำงาน ด้วยกำลังเพียว 1 ใน 3 ของกำลังงาน สูงสุด เมื่อสวิตซ์ 
        S1 อยู่ที่ตำแหน่ง SIMMER (อุ่นหัวแร้ง) จะทำให้หัวแร้งร้อน อยู่เสมอ 
        และไม่ทำให้หัวแร้งเสียหายเนื่องจาก ร้อนเกินไปด้วย  
        
      รูปที่ 11 วงจรอุ่นหัวแร้งอย่างง่าย 
       สำหรับไดโอด 
        D1 ที่ใช้ในวงจรเหล่านี้ต้องมีอัตราทนกระแสแมตซ์กับโหลดที่ใช้งานด้วย 
        และต้องทนแรงดันย้อน กลับสูง สุดได้อย่างน้อยเท่ากับ 1.41 Vin 
       |