วงจรเร็กติไฟร์(diode rectifier
circuit)
 จากรูปที่
4 แสดงการใช้ไดโอดเป็นวงจรเร็กติไฟร์แบบครึ่งคลื่นทั้ง 4 แบบ โดยนำสัญญาณอินพุตมา
จากแหล่งจ่ายที่มี อิมพีแดนซ์ต่ำ เมื่อพิจารณาในทางอุดมคติ (ไม่คิดแรงดันที่ตกคร่อมไดโอด)
วงจรในรูปที่ 4 (ก) และ 4 (ง) จะให้สัญญาณเอาต์ พุต เฉพาะด้านบวกเท่านั้น
ส่วนวงจรในรูปที่ 4 (ข) และ 4 (ค) จะให้สัญญาณเอาต์พุตเฉพาะด้านลบเท่านั้น
และวงจรในรูปที่ 4 (ก) และ 4(ข) จะมีอิมพีแดนซ์ทางด้านเอาต์พุตต่ำ (ประมาณเท่ากับอิมพีแดนซ์ของแหล่งจ่ายสัญญาณอินพุต
) ส่วนวงจรในรูปที่ 4 (ค) และ 4 (ง) จะมีอิมพีแดนซ์ทางด้านเอาต์พุตสูง (ประมาณเท่ากับค่า
R1)

รูปที่ 4 วงจรเร็กติไฟร์ทั้ง4
แบบ
จากรูปที่
5 เป็นวงจรที่เกิดจากการนำวงจรที่ 4 (ค) และ 4 (ง) มารวมกัน เพื่อใช้เป็นวงจรลิมิตเตอร์
(limiter) วงจรนี้จะ รับสัญญาณอินพุตไม่ว่าจะขนาดเท่าใดก็ตาม ซึ่งจะให้สัญญาณเอาต์พุตที่มีขนาดจำกัดเพียง
600 มิลลิโวลต์โดย D1 และD2 เท่านั้น นอกจากนี้ยังสามารถใช้ในการเปลี่ยนสัญญาณสามเหลี่ยมเป็นสัญญาณซายน์ได้ด้วย
เมื่อมีการปรับตัวต้านทาน VR1 ให้ สามารถขลิบแรงดันยอดของสัญญาณสามเหลี่ยมได้อย่างเหมาะสม
(สัญญาณซายน์ที่ได้นี้จะมีความเพี้ยนประมาณ 2 เปอร์เซ็นต์) หรือนำไปใช้ ในการจำกัดสัญญาณรบกวนให้สัญญาณออดิโอ
โดยการปรับตัวต้านทาน VR1 ให้เกิดการขลิบสัญญาณรบกวนออก ไป

รูปที่ 5 วงจรลิมิตเตอร์
จากรูปที่
6 เป็นการดัดแปลงวงจรในรูปที่ 4 (ก) และ 4(ข) ให้สามารถจ่ายแรงดันเอาต์พุตที่มีค่าสูงกว่าหรือต่ำกว่าแรงดัน
อ้างอิง (แรงดันไบแอส) ได้ โดยวงจรในรูปที่ 6 (ก) จะให้แรงดันเอาต์พุตที่มีค่ามากกว่า
+2 โวลต์ เท่านั้น , รูปที่ 6 (ข) ให้แรงดัน เอาต์พุตที่มีค่าน้อยกว่า +2
โวลต์ , รูปที่ 6 (ค) มากกว่า -2 โวลต์และรูปที่ 6 (ง) น้อยกว่า -2 โวลต์
สำหรับโหลดทางเอาต์พุตของ วงจรนี้ควรมีอิมพีแดนซ์ต่ำ ๆ เมื่อเทียบกับค่าของ
R1

รูปที่ 6 วงจรเร็กติไฟร์ที่มีการไบแอส
|